ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์ CV-19 (ศปก.ศบค.) แถลงถึง การบริหารจัดการการแพร่ระบา ดในชุมชนหลายพื้นที่ในกทม.ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ในฐานะผอ.ศบค.ได้แต่งตั้งศูนย์บูรณาการแก้ไขสถานการณ์ CV-19 ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล
ได้มีการประชุมและวางโครงสร้างรองรับไปถึงระดับเขตเพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างประสานสอดคล้องและสมบูรณ์ เพราะที่ผ่านมาการป้องกันการแพร่กระจายของ CV-19 ในพื้นที่ กทม.จะดำเนินการโดยส่วนกลาง แต่ปัจจุบันการแพร่ระบา ดเป็นพื้นที่เป็นเขตๆ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องให้เขตแต่ละเขตมีโครงสร้างการจัดที่สมบูรณ์และสามารถที่จะดำเนินการป้องกันการแพร่ระบา ดด้วยตัวเอง
ทั้งนี้หากครบ 14 วันหลังใช้มาตรการยอดผู้ติด CV-19 ยังสูงอยู่ จะมีมาตรการอะไรเพิ่มเติมหรือไม่นั้น ในห้วงเวลาที่ผ่านมา ทุกครั้งที่ศบค.กำหนดมาตรการป้องกันการแพร่กระจายเราจะฟังข้อเสนอแนะของกระทรวงสาธารณสุขเป็นหลัก ซึ่งจะวิเคราะห์ว่าต้นเหตุในการแพร่ระบา ดแต่ละครั้งมีสาเหตุมาจากอะไร โดยการระบา ดละลอกที่ 3
มีต้นตอการแพร่ระบา ดมาจากสถานบันเทิง จึงได้มีการออกมาตรการ โดยเมื่อใกล้ครบ 14 วัน จะการประเมินอีกครั้งว่าเหตุใดหรืออะไรที่ยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการแพร่ระบา ดอยู่ เราก็จะไปป้องกันที่เหตุนั้น
เมื่อถามว่า มีแนวโน้มที่จะถึงขั้นล็อกดาวน์หรือเคอร์ฟิวหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า เรื่องนี้นายกฯ มีความเป็นห่วงในเรื่องความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน จึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อนน้อยที่สุด ฉะนั้นมาตรการล็อคดาวน์หรือการเคอร์ฟิวเป็นมาตรการสุดท้ายถ้า หากสถานการณ์ไม่สามารถหยุดยั้งได้จริงๆ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีแนวคิดล็อกดาวน์หรือเคอร์ฟิว
อย่างไรก็ตาม ศบค.ย้ำ ล็อกดาวน์ – เคอร์ฟิว จะเป็นมาตรการสุดท้ายหากคุม CV-19ไม่ได้
ขอบคุณ : www.siamstreet.com