แก้วมังกร เป็นพืชตระกูลตะบองเพชรจึงเป็นพืชที่ชอบอากาศร้อนและแดดจัด สำหรับ การปลูกแก้วมังกร นั้น จึงต้องเตรียมพื้นที่ให้อยู่ในที่โล่งแจ้ง ไม่มีร่มเงา ของต้นไม้อื่นมาบังต้นแก้วมังกรจะสามารถเจริญเติบโตได้ดีและออกดอกออกผลได้อย่างน่าพอใจ แก้วมังกรสามารถปลูกได้ในทุกสภาพดิน เช่น ดินปนทราย ดินเหนียว ดินลูกรัง สำหรับดินเหนียวและดินลูกรังต้องมีการปรับหน้าดินด้วยการใช้ปุ๋ยคอกและแกลบดำ ในการปรับสภาพดิน อีกประการหนึ่งต้นแก้วมังกร เป็นต้นไม้ที่ชอบอาศัยอยู่ในดินโปร่ง ร่วนซุย ไม่แน่นจนเกินไป และสามารถระบายน้ำได้ดี สำหรับการปลูก มีอยู่ 2 วิธีด้วยกัน คือ การปลูกในกระถาง และการปลูกในแปลงปลูกทั่วไป โดยปกติแก้วมังกรจะให้ผลผลิตประมาณ ช่วงเดือนพฤษภาคม- เดือนตุลาคม โดยประมาณ และนับตั้งแต่ออกดอกจนถึงผลสุกแก่จนสามารถเก็บเกี่ยวได้จะใช้เวลาประมาณ 7-8 สัปดาห์
คุณสุทธิศักดิ์ บุณยาคุมานนท์หรือเก่งผู้ดูแลสวนเกษตรแก้วมังกรขนาด 130 ไร่ ณ รังสิตคลอง 10 จ.ปทุมธานี ปลูกแก้วมังกรมีไว้ 2 สายพันธุ์ด้วยกัน คือ พันธุ์เวียดนามและพันธุ์เนื้อสีแดง ซึ่งเอกลักษณ์อันโดดเด่นที่ทำให้ผลผลิตแก้วมังกรของสวนแห่งนี้ ได้รับความนิยมก็คือ ความพิถีพิถันในการดูแลแก้วมังกรทีทำให้ได้ผผลลิตที่มีรสชาติดี หวาน หอม อร่อย ตลอดจนมีการนำเทคโนโลยีและการจัดการด้านต่างๆ เข้ามาใช้ จนได้ Global GAP มาเป็นเครื่องการันตรีคุณภาพผลผลิต นอกจากนี้ที่นี่ยังมีวิธีการบังคับให้แก้วมังกรมีผลผลิตนอกฤดู หรือ มีผลผลิตตลอดทั้งปี ซึ่งคุณเก่งยินดีจะเผยแพร่เคล็ดวิธีไว้ให้เป็นวิทยาทาน ดังนี้
วิธีกระตุ้นให้แก้วมังกรออกลูกนอกฤดู หรือมีผลผลิตได้ตลอดทั้งปี
หากต้องการให้ผลผลิตออกทั้งปีก็สามารถทำได้โดย ใช้หลอดไฟขนาด 200 วัตต์ ติดตั้งไว้ระหว่างแถวปลูก โดยใช้หนึ่งดวงต่อเสาสี่เสา เปิดไฟให้ความสว่างตั้งแต่เวลา 19.00 – 5.00 น. ติดต่อกันทุกคืนนาน 15 คืน ต้นจะเริ่มสร้างตาดอกขึ้นมาให้เห็น ให้คลำดูที่ตาใต้หนามจะรู้สึกได้หลังจากนั้นอีกประมาณ 5 วัน ตาดอกจะพัฒนาเติบโตขึ้นเรื่อยๆ เมื่ออายุได้ 15 วันก็จะบานและผสมติดเป็นผลอ่อน ประมาณ 30 วัน หลังติดผล ผลก็จะเริ่มสุกแก่พร้อมเก็บเกี่ยวจำหน่ายได้